- Home
- Course
- โบท็อกซ์(Botox)
- โบท็อกซ์(Botox)
โบท็อกซ์(Botox)
โบท็อกซ์(Botox)
โบท็อกซ์(Botox)
ในปัจจุบัน การบำรุงดูแลผิวหน้าด้วยอาหารและวิตามินเพื่อให้ผิวดูกระชับเต่งตึงอาจไม่เพียงพอสำหรับคนหนุ่มสาวในปัจจุบัน ด้วยวิถีชีวิตทีเต็มไปด้วยความเร่งรีบ นอนดึกตื่นเช้าทุกวันจนไม่มีเวลาดูแลตนเองมากพอ กระทั่งผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ดูไม่กระชับเหมือนสมัยเป็นวัยรุ่น ทำให้หลายคนจำเป็นต้องมองหาเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมดูแลผิวหน้าอื่น ที่จะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าได้ และโบท็อกซ์ก็เป็นหนึ่งในคำตอบที่ใช่และได้รับความนิยมในปัจจุบัน
โบท็อกซ์(Botox) คืออะไร
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารสกัดที่เรียกว่า “ โบทูลินัม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A ) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม ( Clostridium botulinum ) เป็นนวัตกรรมเพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปใบหน้าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการให้ผิวใบหน้าไม่หย่อนคล้อย กล้ามเนื้อผิวหน้ามีความกระชับ ดูเรียวสวยเต่งตึง และรูขุมขนตื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด นอกจากนี้ โบท็อกซ์ยังนำไปใช้การรักษาอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น
- ไมเกรน
- ตาเข
- หนังตากระตุก
- กล้ามเนื้อคอหดเกร็ง
- กล้ามเนื้อหลังอักเสบเรื้อรัง
- แก้ปัญหาในผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ โดยเฉพาะที่บริเวณมือและรักแร้
ข้อเสียบางอย่างที่ผู้เข้ารับบริการต้องพึงระวัง เพราะสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ นั้นเป็นพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ซึ่งหากได้รับโดยรับประทานเข้าไป ก็อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ หรือทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ และผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะไม่ถาวร เพราะสารนี้สามารถไปเองได้ภายในเวลา6เดือน แต่หากผู้ใช้ต้องการเข้ารับการฉีดอีก ก็สามารถมาเติมได้เป็นระยะๆ
![](https://areeyaclinic.com/wp-content/uploads/2020/01/30-678x510.jpg)
อัลเลอร์แกน (Allergan)
ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นโบท็อกซ์ตัวดั่งเดิมที่ผลิตมายาวนาน มีงานวิจัยรองรับจำนวนมาก และผ่านการพัฒนาเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมีโอกาสดื้อยาน้อยที่สุด ข้อดีของโบท็อกซ์ยี่ห้อนี้คือ กระจายตัวแคบ ทำให้ควบคุมการฉีด ได้แม่นยำ ตรงจุด แต่ในทางกลับกัน หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ก็จะเห็นข้อผิดพลาดได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคิ้วกระดก ยิ้มแข็งหรือแก้มตอบ
![](https://areeyaclinic.com/wp-content/uploads/2020/01/product.jpg)
โบทูแล็กซ์ (Botulax)
ผลิตในประเทศเกาหลีจุดเด่นคือ ออกฤทธิ์เห็นผลค่อนข้างไว ราคาประหยัด แต่ข้อเสียคือ สลายตัวเร็วไม่ค่อยคงทนยาวนานมากนัก
![](https://areeyaclinic.com/wp-content/uploads/2020/01/produc2.jpg)
นาโบตะ (Nabota)
ผลิตในประเทศเกาหลี จัดเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อพรีเมียม
มีสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์เร็ว เน้นใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก หางตา ปรับรูปหน้า ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามดูเล็กลง
![](https://areeyaclinic.com/wp-content/uploads/2020/01/cat2.jpg)
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์
ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องเข้าพบแพทย์ก่อน เพื่อทำการตรวจผิวหนังและปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่จะฉีดดังนั้น ผู้เข้ารับบริการจึงอาจต้องมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้
- งดรับประทานยา หรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก
-- ยาแอสไพริน(Aspirin)
-- ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidalanti-lnflammatory Drugs:nsaids)
-- ยาวาร์ฟาริน (Warfarin)
-- วิตามินซี
-- น้ำมันตับปลา
-- แปะก๊วย
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
- งดรับประทานอาหารประเภทหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
- งดรับประทานอาหารที่เผ็ดมากๆ หรือแสบร้อนจนหน้าแดง
- งดรับประทานอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
- งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ไม่ควรประคบร้อน
ขั้นตอนในการฉีดโบท็อกซ์
1. แพทย์ตรวจสอบสภาพผิวที่จะทำการฉีดโบท็อกซ์ และพูดคุยกับผู้เข้ารับบริการว่าจะฉีดบริเวณจุดไหนบ้าง รวมถงยี่ห้อผลิตภัณฑ์ในการฉีดว่าเป็นยี่ห้อใด
2. แพทย์จะทายาชาหรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่ฉีดก่อน เพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บจนเกินไป
3. แพทย์ทำการฉีดโบท็อกซ์โดยจะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดสารโปรตีนปริมาณพอเหมาะลงไปที่กล้ามเนื้อ เวลาในการฉีดจะประมาณ10-15นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณที่ฉีด
การทำงานของโบท็อกซ์
หลังจากแพทย์ทำการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในส่วนที่ต้องการรักษาแล้ว
สารโบท็อกซ์จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทมาสามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือจะเรียกได้อีกอย่างว่าเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว จึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัวซึ่งระยะเวลาที่จะเห็นผลหลังจากการฉีดโบท็อกซ์แล้วจะอยู่ที่ภายใน1-2สัปดาห์ และจะอยู่ได้นาน3-6เดือนหลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ หดตัวจนกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ที่ฉีดรวมถึงการดูแลรักษาของแต่ละบุคคลด้วย
![](https://areeyaclinic.com/wp-content/uploads/2020/01/ser1.jpg)
การดูแลรักษาหลังการฉีดโบท็อกซ์
- ไม่นอนราบในช่วง3-4ชั่วโมงแรกหลังจากการฉีด เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
- ให้นอนหงายหนุนหมอนสูง ในคืนแรกของการรักษา
- ไม่ประคบร้อนและระวังอย่าให้ลมร้อนจากไดร์เป่าผมไปเป่าในบริเวณที่พึ่งฉีดเป็นเวลา2สัปดาห์
- ไม่นวด กด บีบ คลึงบริเวณที่พึงทำการฉีดเป็นเวลา6-8ชั่วโมง เนื่องจากจะทำให้ยากระจาย ไปออกฤทธิ์ในบริเวณอื่นได้
- ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา และหากพบความผิดปกติก่อนวันนัด
เช่น หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อปรึกษาว่าควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อนหรือไม่