ร้อยไหม

ร้อยไหม

ร้อยไหม

ร้อยไหมคือ การนำเส้นไหมชนิดพิเศษมาร้อยเข้าในบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม วึ่งทิสทางการร้อยของเส้นไหมที่สานกันเป็นร่างแห จะทำให้เกิดแรงตึงแรงยกในชั้นผิวหนัง ใบหน้าจึงดูเต่งตึง ยกกระชับขึ้นหลังการร้อยไหม โดยเห็นผลครั้งแรกหลังทันทีและจะสามารถเห็นผลขึ้นเลื่อยๆภายใน1-2สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจน1-2เดือนถัดมา วิธีนี้ไม่ใช่การผ่าตัดจึงไม่มีแผลขนาดใหญ่ อาจมีรอยเข็มเล็กๆเท่านั้น หลังทำจึงไม่ต้องทำการพักฟื้น ล้างหน้า แต่งหน้า ทาครีมได้ตามปกติ แต่อาจมีรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกิน1สัปดาห์ก็จะค่อยๆ ลดเลือนหายไป

เส้นไหมที่ใช้ทำการรักษา
- PCL (polycaprolactone) จะสามารถละลายหมดภายใน 18-24 เดือน เส้นสีขาวขุ่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด เส้นใหญ่ที่สุด
- PLLA (polylactate) จะสามารถละลายหมดภายใน12-18 เดือน เส้นสีขาวใส ขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหา ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย
- PDO (polydioxanone) จะสามารถละลายหมดภายใน4-6เดือน เส้นสีน้ำเงิน มีความยืดหยุ่นสูง เป็นที่นิยมมากที่สุดในสมัยนี้

ข้อดี
- เห็นผลทันทีหลังทำ
- Collagen และ Elastin ถ้าอยู่ในที่ถูกต้อง จะทำให้ช่วยประคองผิว กระชับผิว คล้ายๆกับ เส้นเอ็นของใบหน้าตามธรรมชาติ
- ถ้าใช้ไหม 3ประเภทนี้
1. PDO (poiydioxanone)
2. PLLA (polylactate)
3. PCL (polycaprolactone)
ซึ่งเป็นไหมที่ปลอดภัย จะเห็นผลและไม่ได้รับอันตราย
- หากร้อยไหมกับแพทย์ที่มีความชำนาญและร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็ลดความเสี่ยงในการบวมชำลงได้มาก

ข้อเสีย
- ไหมจะมีเงี่ยงที่เป็นตะขอดึงผิวหนังไปในทิศทางที่ต้องการ ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ผิดหรือตื้นเกินไป จะเกิดรอยเป็นคลื่นที่เห็นได้ชัด
- ไหมกระตุ้นให้ fibroblast
- (เซลล์สร้างคอลลาเจน) Collagen และ elastin แต่ถ้าแพทย์ฝีมือไม่ดี ก็ทำให้ทับซ้อนและเกิดผังผืดได้
- หากใช้ไหมที่ไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้ไหมทะลุหรือขยับหลุดออกจากผิวหนังได้ง่าย
- ในการร้อยไหม จะเกิดการบวมช้ำบ้างจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง3-4วันแรก



ร้อยไหม

  1. ร้อยไหม

    ร้อยไหม

PAGE TOP